โรคสะเก็ดเงิน คืออะไร (Psoriasis)

โรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงิน คืออะไร ?

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) คือ โรคผิวหนังที่กระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวที่เร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดการสร้างชั้นผิวหนังขึ้นมาซ้อนกันจนหนาผิดปกติ และเซลล์ผิวหนังที่ผลิตมากเกินไปนี้ทำให้เกิดอาการคันและอาการของสะเก็ดเงินต่างๆตามมา

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรัง ที่มักจะเกิดขึ้นซ้ำไปมา บางครั้งทุเลาลง บางครั้งเห่อขึ้น ดังนั้นหัวใจหลักของการรักษาโรคสะเก็ดเงินจึงอยู่ที่การคุมอาการไม่ให้เกิดการกำเริบ และรักษาที่ต้นเหตุ ให้การผลิตเซลล์ผิวสมดุลกลับเป็นปกติ ไม่ให้เกิดการผลิตเซลล์ผิวที่เร็วเกินไปนั่นเองค่ะ

โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพราะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้อีกหากร่างกายมีสภาวะแปรปรวนไป แต่ว่าเป็นโรคที่สามารถดูแลรักษาให้ไม่เกิดอาการผื่นสะเก็ดเงินต่อไปได้ และในกรณีนี้การหายจะหมายถึงร่างกายคงความสมดุลได้ต่อเนื่องและไม่กลับมามีอาการอีก ด้วยการดูแลตัวเองในทางธรรมชาติที่ถูกวิธี


อาการของโรคสะเก็ดเงิน

อาการของโรคสะเก็ดเงินนี้มีหลายรูปแบบ อาจไม่เหมือนกันในผู้ป่วยแต่ละคน อาการที่คล้ายคลึงกันได้แก่

  • ผื่นแดง ชั้นผิวหนังหนาตัวขึ้น และมีผื่นขาวเป็นสะเก็ดขึ้น
  • เกิดผื่นสะเก็ดเงินขาวเล็กๆขึ้นเป็นบางจุด (พบบ่อยในเด็ก)
  • ผิวแห้งแตกและอาจมีเลือดออก
  • อาการคัน แสบ หรือเจ็บ
  • เล็บหนาตัวขึ้น 
  • ข้อบวม ข้อต่อมีปัญหา ขยับไม่สะดวก

ผื่นสะเก็ดเงินอาจมีลักษณะตั้งแต่ผื่นเป็นจุดเล็กๆ หรือกระจายคล้ายรังแค หรือกลุ่มขนาดใหญ่ตามร่างกายได้ทั้งหมด

ผื่นส่วนใหญ่แทบทุกชนิดจะมีวงจรของกำเริบ โดยอาจจะมีอาการเห่อกำเริบอยู่เป็นหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน สลับกับการบรรเทาหรือกระทั่งผื่นหายไป

ชนิดประเภทของผื่นสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนาเป็นปื้น (Plaque psoriasis) 

เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด มักจะเป็นสาเหตุให้เกิดผิวแห้ง เป็นรอยนูนขึ้นมา ที่ปกคลุมไปด้วยผื่นชั้นผิวหนังสีเงิน อาจมีอาการคันหรือเจ็บแสบบริเวณผื่น และอาจเป็นบริเวณเล็กๆหรือขยายวงกว้างออกไป ผื่นชนิดนี้พบได้ทั่วตัว ทั้งบริเวณ หนังศรีษะ ข้อเข่า ข้อศอก ไปจนถึงบริเวณองคชาติ และบริเวณเนื้อเยื่อบอบบางภายในปากของเราได้

สะเก็ดเงินที่เล็บ

ผื่นสะเก็ดเงินสามารถขึ้นได้ที่บริเวณเล็บมือและเล็บเท้า ทำให้เกิดอาการกัดกร่อน และการเจริญเติบโตของเล็บผิดปกติและเกิดการเปลี่ยนสีของเล็บได้ หากอาการรุนแรงขึ้น อาจทำให้เล็บหลุดจากฐานเล็บของเราได้ 

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นขนาดเล็ก (Guttate psoriasis)

ผื่นชนิดนี้พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่ยังอายุไม่มาก มักจะเกิดขึ้นจากการได้รับการกระตุ้นจากเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อเช่น เชื้อคออักเสบ มักจะขึ้นผื่นเป็นจุดขนาดเล็ก ตามบริเวณต่างๆในร่างกาย เช่น แขน ขา หนังศรีษะ ลำตัว ผื่นกลุ่มนี้มักจะไม่หนาตัวเท่าผื่นชนิดเป็นปื้น (Plaque psoriasis) และอาจจะมีผื่นขึ้นแค่ครั้งเดียวและหายไป หรือในบางกรณีอาจมีขึ้นซ้ำอีกหลายครั้ง

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นที่ขึ้นตามรอยพับ (Inverse psoriasis) 

มักจะพบผื่นชนิดนี้ตามบริเวณข้อพับต่างๆ เช่น บริเวณใต้วงแขน ต้นขา ขาหนีบ ใต้ราวนม หรือบริเวณองคชาติได้ ผื่นชนิดนี้มักจะมีผิวเรียบที่มีรอยแดง อาจมีอาการบวมแดง และมักจะถูกกระตุ้นให้กำเริบได้ หากมีการเสียดสีหรือเมื่อเหงื่อออกมาก หรือเมื่อเกิดการติดเชื้อราหรือแบคทีเรียในบริเวณนี้ ก็อาจเป็นตัวกระตุ้นผื่นสะเก็ดเงินชนิดนี้ได้

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นแบบตุ่มหนอง (Pustular psoriasis)

ผื่นชนิดนี้พบได้ไม่มากนัก มักจะเกิดขึ้นกับผื่นที่มีพื้นที่กว้าง หรือบริเวณเล็กๆในบางส่วนเช่นตามมือ เท้า หรือปลายเล็บ ผื่นชนิดนี้มักจะกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว และปรากฎแผลผุพองที่เต็มไปด้วยน้ำหนองขึ้นมาในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผื่นเริ่มแดงขึ้น และอาการผุพองนี้อาจเกิดขึ้นและหายไปบ่อยครั้ง และโดยทั่วไปผื่นชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการไข้ขึ้น หนาวสั่น อาการท้องเสีย และอาการคันอย่างรุนแรงได้

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นแดงลอกทั้งตัว (Erythrodermic psoriasis)

เป็นผื่นสะเก็ดเงินชนิดที่พบได้น้อยที่สุด ผื่นชนิดนี้จะขึ้นทั้งตัว ทำให้เกิดอาการแดง ผิวลอก ทำให้คันแสบร้อนอย่างรุนแรง

โรคสะเก็ดเงินชนิดที่เกิดข้ออักเสบ (Psoriatic arthritis)

โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินเป็นโรคข้อเรื้อรังชนิดหนึ่งที่พบได้ในผู้ป่วยสะเก็ดเงิน โดยมักมีอาการร่วมกับผื่นสะเก็ดเงิน โดยนอกจากผู้ป่วยสะเก็ดเงินมักจะมีอาการของโรคผิวหนังที่ผื่นบวมแดงลอกแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณข้อต่อ ทำให้เกิ ดอาการอักเสบที่ข้อ ข้อบวม ปวดข้อ 

อาการปวดข้อนี้ในบางกรณีอาจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ร่างกายแสดงออกมาว่าเป็นโรคสะเก็ดเงินโดยยังไม่ปรากฎผื่นมาก่อน หรือบางครั้งอาจแสดงแค่การเปลี่ยนแปลงลักษณะบนเล็บมือเล็บเท้าก่อน 

อาการข้ออักเสบจากสะเก็ดเงินนี้มีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับรุนแรง หากปล่อยไว้ต่อเนื่องจะส่งผลเสียต่อข้อต่อของเรา แม้ว่าอาการข้ออักเสบจากสะเก็ดเงินนี้มักจะไม่รุนแรงเท่ากับโรคข้ออักเสบกลุ่มอื่นๆ แต่ผู้ป่วยก็มักจะมีความลำบาก ทำให้เกิดปัญหาข้อเสื่อม และเกิดอาการพิการได้ในท้ายที่สุด

เมื่อไรควรรีบเข้ารับการรักษา

ถ้าคุณเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคสะเก็ดเงิน แนะนำปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้

  • รู้สึกไม่สบายตัว และเริ่มมีอาการผื่น 
  • ส่งผลกระทบทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น
  • ทำให้เกิดการกังวลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตร่วมกับผู้คน เกิดความเครียด 
  • เกิดปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับข้อต่อต่างๆ เช่นอาการบวมแดงอักเสบ 

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากวิธีการรักษาสะเก็ดเงินในปัจจุบันที่คุณเข้ารับการรักษาอยู่ไม่เห็นผลพัฒนาการที่ดีขึ้น คุณอาจต้องการวิธีการรักษาในรูปแบบอื่นที่ตรงกับสภาพร่างกายของคุณมากขึ้น 

สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน

ในทางการแพทย์แผนตะวันออกหรือแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่สามารถให้คำตอบถึงสาเหตุของโรคสะเก็ดเงินได้อย่างแน่ชัด แต่ค้นพบว่ามีการเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองเสียสมดุลไป โดยเฉพาะกลุ่มเม็ดเลือดขาวและทีเซลล์ (T cells) 

ทีเซลล์ ทำหน้าที่หลักในการต่อสู้กับสิ่งผิดปกติที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อโรคไวรัสแบคทีเรีย แต่ในผู้ป่วยสะเก็ดเงิน ทีเซลล์นี้กลับโจมตีเซลล์ผิวหนังของเราเอง โดยคล้ายคลึงกับการพยายามซ่อมแซมตัวเองจากปัญหาการติดเชื้อหรือความพยายามซ่อมแซมบาดแผล ทั้งที่เรายังไม่ได้เกิดบาดแผลขึ้น

ทีเซลล์ที่ทำงานผิดปกตินี้ ทำให้เกิดการสร้างชั้นผิวหนังใหม่ที่รวดเร็วผิดปกติ และร่างกายผู้ป่วยจะมีทีเซลล์และเซลล์เม็ดเลือดขาวมากขึ้นและเดินทางไปที่ผิวหนัง และบริเวณที่มีผื่นสะเก็ดเงินนี้ หลอดเลือดจะขยายตัว และทำให้ผื่นแดงและเกิดความผิดปกติของผิวหนังตามมา เช่น ผื่นแดงและอาจมีน้ำหนองผุพองตามรอยแผลต่างๆ 

วงจรของผื่นจะเกิดขึ้นซ้ำไปมา โดยชั้นผิวหนังที่สร้างใหม่จะถูกดันออกไปเป็นชั้นนอกสุดและกำจัดออกไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน เมื่อเทียบกับคนปกติที่ใช้เวลาผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวหลายสัปดาห์ จึงทำให้ชั้นผิวหนังหนาตัวขึ้น 

ในการแพทย์ตะวันตก ยังไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีเซลล์ทำงานผิดปกติ แต่ในทางการแพทย์แผนไทยและแผนจีน มีการให้เหตุผลสาเหตุของสะเก็ดเงินที่ต่างกันออกไป 

แพทย์แผนไทย : สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน

ในทางศาสตร์แพทย์แผนไทย โรคสะเก็ดเงินเกิดจากความผิดปกติ คือ ปิตตะ (ความร้อนหรือธาตุไฟ) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเจอกับ (ธาตุน้ำหรือเสมหะ) ในร่างกายที่เสียอยู่จึงผุดออกมาทางผิวหนังและเกิดเป็นผื่นแดงนูน เห่อ เมื่อสัมผัสที่ผื่นก็จะรู้สึกร้อน แสบร้อน หากกำเริบมากก็จะเห่อบวมแดงมากขึ้น เมื่อ (ปิตตะหรือธาตุไฟ) เพิ่มขึ้นในร่างหายจะส่งผลกระตุ้นให้ (วาตะหรือธาตุลม) ในร่างกายกำเริบได้และส่งผลให้เกิดอาการคันที่ผื่นตามร่างกายอีกด้วย

ดังนั้น การรักษาจึงต้องใช้ยาสมุนไพรกลุ่มที่มีสรรพคุณในการแก้น้ำเหลืองเสีย กระจายลม และกลุ่มยาระบายเพื่อให้ผู้ป่วยได้มีการระบายถ่ายพิษ ถ่ายความร้อนออกมา ไม่ว่าจะเป็นทางอุจจาระหรือปัสสาวะ 

แพทย์แผนจีน : สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน

การเกิดสะเก็ดเงินในมุมมองแพทย์แผนจีนเชื่อว่าเกิดจากความร้อนในเลือดและภาวะหยุดนิ่งในเลือดเป็นปัจจัยสำคัญ

โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ

  1. ระยะเฉียบพลัน – เกิดจากภาวะเลือดร้อนในร่างกาย – แนวทางการรักษา : ดับร้อนทำให้เลือดเย็น ลดอาการคัน
  2. ระยะโรคสงบ – เกิดจากเลือดแห้ง(ขาดสารน้ำ) – แนวทางการรักษา : พยุงเลือดบำรุงยิน ขจัดลมทำให้ผิวชุ่มชื้น
  3. ระยะโรคเป็นมานานเกิดจากเลือดอุดตัน – แนวทางการรักษา : เพิ่มการไหลเวียนเลือด สลายเลือดคั่ง ลดอาการคัน

โดยสามารถรักษาด้วยการทานยาสมุนไพรจีนแคปซูลที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง ตามแต่ละอาการ หรือทำการฝังเข็มตามเส้นลมปราณที่เหมาะสมกับอาการตามแต่ละกลุ่มอาการ

ปัจจัยที่ทำให้ผื่นสะเก็ดเงินกำเริบ

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่ถูกกระทบจากภาวะสิ่งแวดล้อมภายในและภายนอกทำให้เกิดการกำเริบของผื่นได้ง่าย โดยเฉพาะการถูกกระทบโดยปัจจัยเหล่านี้

  • การติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อทางผิวหนัง
  • ผิวได้รับบาดแผล หรืออาการบาดเจ็บ เช่น การถูกบาด รอยขีดข่วน การถูกแมลงกัดต่อย ผิวถูกแดดไหม้ เป็นต้น
  • ภาวะความเครียด 
  • การดื่มเหล้าสูบบุหรี่ 
  • ภาวะการขาดวิตามินดี (Vitamin D)
  • การรับการรักษาบางประเภท บางกลุ่มโรค เช่น การใช้ลิเธียมในการรักษาผู้ป่วยไบโพลาร์ และยาบางกลุ่มสำหรับโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น 

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงดังต่อไปนี้

  • พันธุกรรม – คนที่ครอบครัวมีประวัติการป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน เป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเกิดโรคสะเก็ดเงินมากกว่าคนอื่น 
  • การติดเชื้อไวรัสแบคทีเรีย – ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV) มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงในการเกิดโรคสะเก็ดเงิน ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากในคนที่มักมีการติดเชื้อเรื้อรังเป็นประจำ โดยเฉพาะโรคคออักเสบ 
  • ความเครียด – ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นได้ง่ายที่สุด และในผู้ที่มีภาวะเครียดเรื้อรังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง และเกิดความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่เป็นต้นเหตุให้เกิดสะเก็ดเงินได้ง่าย
  • ความอ้วน – ในผู้ที่มีไขมันสะสมสูงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผื่นสะเก็ดเงินที่เกิดขึ้นบริเวณรอยพับรอยต่อของผิวหนัง 
  • การสูบบุหรี่ดื่มเหล้า – สารพิษจากเหล้าและบุหรี่เป็นตัวทำลายระบบภูมิคุ้มกันและทำให้สมดุลภายในร่างกายแปรปรวนได้ง่ายขึ้น 

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคสะเก็ดเงิน

โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังจากเป็นสะเก็ดเงินได้มีดังต่อไปนี้

  • โรคข้ออักเสบจากสะเก็ดเงิน – อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดปัญหาข้อเสื่อม ลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันในการขยับตัว และพิการได้ หากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน 
  • โรคสายตา – เช่น ภาวะเยื่อบุตาอักเสบ(Conjunctivitis) เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) ม่านตาอักเสบ (Uveitis) ได้ เป็นภาวะโรคแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสะเก็ดเงิน
  • โรคอ้วน น้ำหนักเกินไขมันสูง – คนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินโดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นรุนแรงมักจะมีภาวะอ้วนร่วมด้วย โดยอาจจะเกิดจากภาวะการอักเสบที่เชื่อมกับการมีไขมันสะสมมากเกินไปในผู้ป่วย หรืออาจจะเกิดจากที่ผู้ป่วยสะเก็ดเงินมักมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ไม่ค่อยขยับตัว ทำให้เกิดโรคอ้วนตามมาก็ได้
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 – ผู้ป่วยสะเก็ดเงินจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่เป็นโรคเบาหวานตามมา
  • โรคความดันสูง –  ภาวะความดันในเลือดสูง เป็นอีกโรคเรื้อรังที่มักพบบ่อยในผู้เป็นสะเก็ดเงิน
  • โรคหัวใจ – ผู้ป่วยสะเก็ดเงินมีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคหัวใจตามมาถึงสองเท่าจากคนปกติ ในผู้เป็นสะเก็ดเงินหรือเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับสะเก็ดเงินอยู่ อาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ การสะสมของไขมันคอเลสเตอรอล ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ หลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดแข็ง และโรคหัวใจกลุ่มอื่นๆตามมาได้
  • โรคระบบเผาผลาญผิดปกติ – จากภาวะหลายอย่างร่วมกัน ทั้งความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง หลอดเลือดตีบต่างๆ ล้วนส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติตามมาได้
  • โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง – โรคเซลิแอค (Celiac disease) โรคปลอกประสาทเสื่อม (Sclerosis) โรคเกี่ยวกับการอักเสบต่างๆ เช่นโรคลำไส้อักเสบ หรือเรียกว่าโรคโครห์น (Crohn’s disease) 
  • โรคพาร์กินสัน – เป็นโรคเรื้อรังทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นตามมาได้
  • โรคไต – ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินและที่รับการรักษาอยู่ มีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคไตตามมาได้
  • โรคทางจิตเวช – โรคซึมเศร้า โรคเครียดต่างๆ ล้วนเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการของสะเก็ดเงิน

การวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงิน

สะเก็ดเงินเป็นโรคที่สามารถตรวจสอบได้ค่อนข้างง่าย โดยดูได้ดังนี้

  • การตรวจร่างกายเบื้องต้น – แพทย์จะดูการตรวจร่างกายร่วมกับการประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย โดยสังเกตจากลักษณะอาการเบื้องต้นตามบริเวณผื่นของร่างกาย ผิวหนังและเล็บ
  • การตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง – ในกรณีที่ต้องการคอนเฟิร์มละเอียดและไม่แน่ใจโรค แพทย์จะนำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบผ่านกล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจสอบประเภทของและชนิดของผื่น

วิธีการรักษาโรคสะเก็ดเงิน

โดยพื้นฐาน แพทย์จะเลือกวิธีการรักษาจากความรุนแรงของผื่นสะเก็ดเงิน และตำแหน่งและบริเวณที่ครอบคลุมของผื่น โดยปกติแพทย์มักเริ่มจากการใช้วิธีรักษาชนิดที่รุนแรงน้อยที่สุดก่อน เช่นการทาครีมหรือการใช้แสงบำบัด ส่วนในกรณีที่มีผื่นรุนแรง หรือมีอาการข้ออักเสบร่วมด้วย แพทย์อาจจะปรับใช้วิธีรักษาที่รุนแรงขึ้นเช่นการใช้ยาฉีดหรือยารับประทานร่วมด้วย โดยจุดมุ่งหมายคือหาวิธีรักษาที่ช่วยชะลอการเกิดเซลล์ผิวใหม่ให้สมดุลขึ้นโดยมีผลข้างเคียงที่น้อยที่สุด

ในปัจจุบันทางการแพทย์มีการวิจัยเทคโนโลยีใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในอนาคตจึงมีทางเลือกเพิ่มเติมที่วงการสะเก็ดเงินกำลังคาดหวังตามมาอีกมากมาย

ขอแนะนำบทความ : วิธีการรักษาโรคสะเก็ดเงินแบบแพทย์ปัจจุบัน

ทางเลือกการรักษาแบบอื่นๆ

นอกจากการใช้ยาทางแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว มีวิธีการรักษาแนวทางอื่นๆอีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านที่เห็นผลได้ชัดเจนและเริ่มมีคนนำไปใช้มากมาย คือแนวทางธรรมมชาติบำบัด เช่น การรับประทานอาหาร หรืออาหารเสริม หรือ การดูแลตัวเอง การปรับพฤติกรรม การใช้สมุนไพรและพืชผักธรรมชาติ เป็นต้น

ซึ่งส่วนใหญ่มีตั้งแต่เป็นผลการศึกษาของแพทย์ปัจจุบันจนถึงเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านเก่าจากทั่วโลก และศาสตร์การแพทย์ต่างๆ เช่นแพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทย ที่แม้หลายศาสตร์จะไม่ได้รับการพิสูจน์เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่ยอมรับไปทั่วโลก แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและผู้เห็นผลตามท้องถิ่นประเทศแต่ละส่วน และหลายประเภทก็ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงเท่ากับกลุ่มยาหลายชนิดในทางแพทย์แผนปัจจุบัน จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากเลือกวิธีการรักษาสะเก็ดเงินในแนวทางธรรมชาติ

ตัวอย่างอาหารเสริม/สมุนไพรสำหรับผู้ป่วยสะเก็ดเงินที่ใช้กันแพร่หลายเช่น

  • ว่านหางจระเข้ สารในว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยลดอาการบวมแดง อาการคัน อาการอักเสบ และลดการกำเริบของผื่นสะเก็ดเงิน โดยนิยมนำมาใช้ทา
  • น้ำมันปลา ในน้ำมันปลามีโอเมก้า 3 สูง ซึ่งมีส่วนช่วยต้านการอักเสบ นิยมนำมาใช้รับประทาน
  • บาร์เบอร์รี่ (Barberry/Oregon grape) ในบางท้องถิ่นนำมาใช้ทาเพื่อลดอาการกำเริบของผื่น และลดการอักเสบ

การดูแลตัวเองในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน

การอาบน้ำ

อาบน้ำทุกวัน ช่วยในการฆ่าเชื้อป้องกันการอักเสบ และช่วยให้ผื่นเซลล์ตายหลุดลอกออก 

หลีกเลี่ยงน้ำร้อน และสบู่ที่มีฤทธิ์แรง แนะนำสบู่อ่อนที่ผสมน้ำมันธรรมชาติเพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองและแห้งเกินไป

ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์ 

แนะนำทาน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มให้ความชุ่มชื่นหลังอาบน้ำ เพื่อปกป้องผิวหลังจากสูญเสียน้ำมันผิวไปจากการใช้สบู่ และแนะนำทาเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งเป็นพิเศษ หรือหน้าหนาว 

รับแดดเป็นประจำทุกวัน

แสงแดดที่เหมาะสมจะช่วยเรื่องผื่นสะเก็ดเงินได้ โดยต้องระวังไม่ให้รับแดดมากไปจนเกิดปัญหาผิวแทน ควรรับแดดให้ถูกเวลา โดยเฉพาะแดดยามเช้า หรือยามเย็นที่ไม่แรงเกินไป และไม่รับแดดแรงเกินไปจนผิวไหม้เสียหายซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

บันทึกและระวังปัจจัยที่กระตุ้นผื่นสะเก็ดเงินของแต่ละคน

คอยสังเกตสิ่งที่กระตุ้นผื่นของเรา และหลีกเลี่ยง เช่น ความเครียด บาดแผล บุหรี่ เป็นต้น

หลี่กเลี่ยงการดื่มเหล้า

แอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ลดประสิทธิภาพการรักษาสะเก็ดเงิน 

อาหารเสริมโรคสะเก็ดเงิน-ผื่นสะเก็ดเงิน
ขอแนะนำอาหารเสริม สำหรับผู้ป่วยสะเก็ดเงิน


ขอบคุณที่มาบทความและรูปภาพจาก


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รักษาสะเก็ดเงิน

5 อันดับ ยาสมุนไพรยอดนิยมช่วยแก้โรคสะเก็ดเงินได้

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคที่เกิดจากผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ในทางแผนปัจจุบันสาเหตุยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด ซึ่งอาจจะเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิกันในร่างกายจนทำให้เกิกการอักเสบ แต่ในทางการแพทย์แผนไทยแล้วสาเหตุเกิดจากปัจจัยภายนอกและภายในร่างกายส่งผลให้เลือดและน้ำเหลืองทำงานผิดปกติและทำให้มีน้ำเหลืองเสียตกค้างในร่างกายจำนวนมากจนประทุ้งออกมาทางผิวหนังทำให้เกิดผื่นอักเสบ…

บอกลา 10 สาเหตุที่ทำให้สะเก็ดเงินเห่อ

ระวัง! 10 สาเหตุปัจจัยที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินเห่อ

โรคสะเก็ดเงิน มีสาเหตุปัจจัยที่ทำให้ผื่นเห่อกำเริบได้หลายอย่าง ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด และมักจะเป็นหลายๆปัจจัยผสมกันจนทำให้ร่างกายแปรปรวนไป ที่สำคัญมีดังนี้ 1…

โรคเรื้อน สาเหตุ

มารู้จักกับโรคเรื้อน(+เรื้อนกวาง) ตอนที่ 2 สาเหตุ

หากจะพูดถึงโรคเรื้อน จะต้องย้อนกลับไปที่ศาสตร์การแพทย์ยุคโบราณมีความคิดพื้นฐานว่าร่างกายของมนุษย์เรามีธาตุหลักทั้ง 4 ธาตุ คือธาตุดิน 20…